ไขข้อสงสัย Garmin Descent MK3 กับ MK3i ต่างกันอย่างไร?

การดำน้ำ เป็นกิจกรรมที่น่าหลงใหล เพราะเสมือนคุณได้เข้าไปสู่โลกใต้สมุทร โลกอีกใบที่มีความสวยงาม แปลกตา และหาชมที่ไหนไม่ได้ อย่างไรก็ตาม กิจกรรมดำน้ำก็เป็นกิจกรรมที่อันตราย เพราะนอกจากธรรมชาติ และกระแสน้ำที่ไม่สามารถควบคุมได้แล้ว ยังต้องรับมือกับแรงดันน้ำ อากาศที่ใช้หายใจ ความมืด ฯลฯ ทั้งหมดนี้จึงต้องใช้ตัวช่วยขณะดำน้ำอย่างไดฟ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งปัจจุบันก็ย่อขนาดให้เหลือเพียงนาฬิกาเรือนเดียวอย่าง Garmin Descent MK3 ที่นอกจากจะมีดีไซน์ดูเท่ สปอร์ต แล้วยังอัดแน่นไปด้วยฟังก์ชันที่ช่วยให้การดำน้ำของคุณไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

วันนี้ Aquapro จึงได้นำข้อสงสัยสำหรับใครที่กำลังหานาฬิกาดำน้ำอยู่ว่า Garmin รุ่น MK3 กับ MK3i ที่มีขนาดและราคาแตกต่างกันนี้ ว่าจะมีฟีเจอร์อะไรที่โดดเด่น และน่าสนใจบ้าง เชื่อว่าหลายคนที่อ่านจบจะสามารถเลือกนาฬิกาที่ถูกใจพร้อมนำไปดำน้ำในทริปถัดไปของคุณได้อย่างแน่นอน !

ดำน้ำให้สนุกด้วย Garmin Descent MK3

มาเริ่มกันที่นาฬิกาดำน้ำรุ่น Descent MK3 เป็นรุ่นที่ทาง Garmin ออกแบบมาเพื่อเป็นคอมพิวเตอร์ดำน้ำอัจฉริยะขั้นสูง โดยมีหน้าที่หลักคือการเตรียมความพร้อมของคุณก่อนสัมผัสกับประสบการณ์ดำน้ำที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์การฝึกแบบ multi-Sport สำหรับกีฬาประเภทอื่นๆ อีกมากมายหลายประเภทอีกด้วย โดยฟีเจอร์การดำน้ำที่น่าสนใจสำหรับนาฬิการุ่นนี้ก็คือ

• โหมดดำน้ำ – MK3 มีโหมดการดำน้ำให้เลือกใช้หลายโหมดไม่ว่าจะเป็น Single Gas, Multi Gas (รวมถึงทร็อกซ์ และไตรมิกซ์) เกจ การกลั้นหายใจดำน้ำ (Free Dive) การดำน้ำยิงปลา และการดำน้ำในระบบปิด
• แผนที่ DIVEVIEW – เป็นแผนที่สีจากระบบ GPS ซึ่งจะแจ้งทั้งการระบุตำแหน่ง ความลึกใต้น้ำโดยรวมจุดดำน้ำยอดนิยมกว่า 4,000 แห่ง 
• เครื่องมือช่วยเตรียมความพร้อมในการดำน้ำ – ฟีเจอร์นี้จะเป็นการนำข้อมูลสุขภาพโดยรวมจากการเก็บสถิติจากนาฬิกา มาใช้เพื่อประเมินร่างกายไม่ว่าจะเป็น การนอนหลับ การออกกำลังกาย ความเครียด หรืออาการ Jet Lag จากการเดินทางไกลที่อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการดำน้ำของคุณ 
• การปรับแต่งโหมดดำน้ำได้เอง – ปรับตั้งการแสดงผลค่าต่างๆ ในการดำน้ำเพื่อแสดงเพียงค่าสำคัญที่คุณต้องการใช้งานเท่านั้น 
• บันทึกการดำน้ำ – เชื่อมต่ออัตโนมัติกับแอปพลิเคชัน Garmin Dive เพื่อบันทึกรายละเอียดการดำน้ำแต่ละครั้ง เพื่อใช้ในการปรับปรุง หรือพัฒนาการดำน้ำในครั้งถัดไปของคุณ 
• ดีไซน์ที่มุ่งเน้นการดำน้ำ – หน้าจอแสดงผลแบบสี AMOLED ขนาด 1.2″ ตัวเรือนใช้กระจกเลนส์แซฟไฟร์ที่สามารถทนแรงดันน้ำได้สูงสุดถึงระดับความลึก 200 เมตร และปุ่มแม่เหล็กโลหะที่ป้องกันการรั่วซึมได้ดี 

เหนือกว่าไปอีกขั้นกับ MK3i

ยกระดับการเป็นผู้นำในไดฟ์ถัดไปของคุณด้วย ระบบ Subwave Sonar ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่โดดเด่นสำหรับรุ่น MK3i ที่นอกจากจะมีให้เลือกหน้าปัดขนาดใหญ่กว่าถึง 51 มม. แล้ว ยังมาพร้อมกับระบบ Air Integrate ที่เชื่อมต่อกับเซนเซอร์ในถังออกซิเจนของเพื่อนร่วมทริปของคุณ ทำให้การสื่อสาร และการควบคุมใต้น้ำทำได้ง่าย และราบรื่นกว่าที่เคยเป็น โดยฟังก์ชันที่น่าสนใจจะมีรายละเอียด ดังนี้

• การรวมอากาศ – เมื่อทำงานร่วมกับเครื่องมือส่งสัญญาณ Descent T2 จะสามารถติดตั้งข้อมูลของแรงดันในถัง และระดับความลึกของเพื่อนร่วมไดฟ์ได้สูงสุดถึง 8 ถังผ่านเครือข่ายข้อมูลโซนาร์ Subwave 
• การทำเครือข่ายโซนาร์ SUBWAVE – เครือข่ายนี้จะใช้เพื่อเป็นอุปกรณ์ Communicate เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลขณะดำน้ำได้ โดยสามารถส่งข้อความที่ตั้งค่าล่วงหน้าไว้ได้ไกลถึง 30 เมตร นอกจากนี้ยังตรวจสอบระยะห่างระหว่างคุณกับเพื่อนได้ในระยะ 10 เมตรได้อีกด้วย 

โดยรุ่น MK3i นี้จะได้รับฟีเจอร์ และฟังก์ชันทั้งหมดของ MK3 รุ่นปกติ จึงช่วยให้นาฬิการุ่นนี้กลายเป็นอุปกรณ์สำหรับ Dive Leader หรือผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลระหว่างดำน้ำ เพื่อเพิ่มความอุ่นใจ และความปลอดภัยให้กับคุณและเพื่อนร่วมทริป

สรุป Garmin Descent Mk3 กับ Mk3i ต่างกันอย่างไร

ในหัวข้อสุดท้ายนี้เราจะนำทั้งสองรุ่นมาเปรียบเทียบกันว่า มีคุณสมบัติ และรายละเอียดใดบ้างที่แตกต่างกัน ซึ่งหากจะสรุปคร่าวๆ ก็คือรุ่น MK3i นั้นเปรียบเสมือนรุ่นอัปเกรดเหมาะสมสำหรับนักดำน้ำมือโปร ที่ต้องการไดฟ์คอมพิวเตอร์ในรูปลักษณ์ของนาฬิกาทรงสปอร์ต ที่นอกจากจะช่วยในเรื่องของการดำน้ำแล้ว ยังสามารถเก็บสถิติ เตรียมความพร้อมของร่างกาย และเพิ่มประสิทธิภาพการดำน้ำที่คุณหาที่ไหนไม่ได้จากนาฬิการุ่นอื่นๆ

โดยหากจะเปรียบเทียบจุดต่อจุด ก็จะมีรายละเอียดดังนี้

• ขนาดเครื่อง และหน้าจอ – สำหรับรุ่น MK3 จะมีขนาดหน้าจอให้เลือกแค่ 43 มม. เท่านั้น แต่สำหรับรุ่น MK3i จะมีขนาดให้เลือกทั้ง 43 มม. และ 51 มม.
• ความละเอียดหน้าจอ และวัสดุกรอบ – ความละเอียดหน้าจอของรุ่น MK3i จะมีความละเอียดอยู่ที่ 454 x 454 พิกเซล เทียบกับรุ่น MK3 อยู่ที่ 390 x 390 พิกเซล ส่วนตัววัสดุกรอบสำหรับรุ่น MK3i จะใช้วัสดุไทเทเนียมเคลือบคาร์บอนคล้ายเพชร (DLC) ที่มีความทนทานสูงมาก ส่วนรุ่นรองจะใช้เป็น สแตนเลส 
• อายุแบตเตอรี่ – ด้วยขนาดหน้าปัดที่ใหญ่รุ่น MK3i จึงมีอายุแบตเตอรี่ยาวนานกว่าโดยสามารถใช้งานได้ 25 วัน (10 วันหากเปิดใช้งานตลอดเวลา) เมื่อเทียบกับ MK3 ที่ 10 วัน (4 วันหากเปิดใช้งานตลอดเวลา)
• คุณสมบัติการดำน้ำ – สำหรับคุณสมบัติเพิ่มเติมสำหรับการดำน้ำในรุ่น MK3i จะมีการเพิ่มไฟฉายส่งสัญญาณ และช่วยในการดำน้ำตอนกลางคืน หรือการดำน้ำในถ้ำได้ในกรณีฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังมีระบบเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Descent T2 ที่สามารถดูสถานะ และระดับแรงดันของถังออกซิเจนเพื่อนร่วมไดฟ์ได้สูงสุด 8 ถัง 

เป็นเจ้าของ Garmin Descent Mk3 และ Mk3i ได้ที่ Aquapro

เชื่อว่าหลายคนอาจจะมีตัวเลือกอยู่ในใจแล้ว สำหรับนาฬิกาดำน้ำขั้นสูงจากแบรนด์ การ์มิน อย่างรุ่น Descent MK3 และ Descent MK3i ซึ่งทั้งสองรุ่นก็เหมาะสมกับผู้ใช้งานในระดับที่แตกต่างกัน โดยสำหรับใครที่ชื่นชอบการดำน้ำ หรือมีการดำน้ำเป็นงานอดิเรกรุ่น MK3 ก็เพียงพอและตอบโจทย์ในทุกมิติ แต่หากเป็นสายจริงจัง ต้องการดำน้ำระดับมือโปร หรือเป็นผู้นำไดฟ์การเลือกใช้ MK3i ก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพให้คุณได้อีกระดับ

ซึ่งหากใครกำลังมองหาตัวแทนจัดจำหน่ายที่มีอุปกรณ์ที่หลากหลาย หรือ Gadget ใหม่ๆ ร้านของเรามาพร้อมกับ โปรโมชั่นสุดคุ้ม ของแถมจุกๆ พร้อมกับ โปรส่งฟรี และโปรผ่อนชำระ 0%* (ทุกอย่างเป็นไปตามที่ร้านกำหนด) ทำให้วางใจได้ว่าคุณจะได้สินค้าที่ดีมีคุณภาพ

 

ติดตามและสั่งซื้อสินค้า AquaPro เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชั่นใหม่ๆ ทั้งกล้อง Action Cam ตัวท็อป อุปกรณ์เสริมต่างๆ หรือจะเป็น นาฬิกาสุขภาพ Garmin ก็สามารถติดตามได้หลากหลายช่องทางที่

Facebook : AquaProThailand
Line : @aquapro
Shopee : AquaProthailand
Thisshop : Aquapro (สำหรับลูกค้าที่ต้องการผ่อนแต่ไม่มีบัตรเครดิต). 

GoPro Group: GoPro Club กลุ่ม พูดคุย ซื้อขาย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับ GoPro