หลายๆคนที่ใช้งาน GoPro มา หรือ เป็นผู้ใช้งานใหม่ อาจจะมีความสับสนว่าระหว่าง Time lapse กับ Time warp ต่างกันยังไง หรือ ใช้งานอย่างไร ทำให้ผู้ใช้งานหลายๆคน ใช้งานกันผิด นอกจากความแตกต่างแล้ว หลายๆคนยังไม่รู้ว่า Time lapse คืออะไร หรือ Time warp คืออะไร บทความนี้จะมาแนะนำโหมดถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ ที่ถือว่าเป็นโหมดพิเศษที่ผู้ใช้งาน GoPro หลายคนต้องห้ามพลาด อีกทั้งยังเป็นโหมดที่ช่างภาพ ผู้ที่ชื่นชอบ GoPro หลายๆคนชอบใช้งาน ไปอ่านบทความกันเลย!!!
Time lapse กับ Time warp ต่างกันยังไง คืออะไรกันแน่ ?
Time warp คือ การถ่ายวิดีโอด้วยความเร็วสูง การเร่งความเร็ว เพื่อบีบไฟล์ขนาดใหญ่ ที่กินระยะเวลานานให้กลายเป็นไฟล์ที่มีขนาดเล็กลง แต่ยังคงองค์ประกอบ และ รายละเอียดทั้งหมดไว้ได้ สำหรับ GoPro สามารถใช้ร่วมกับ กันสั่นอย่าง HyperSmooth เพื่อให้มีความเสถียรสูง เหมาะสำหรับการถ่ายที่เราต้องการจะเก็บรายละเอียดของวิว และ วิดีโอที่ต้องเคลื่อนที่ เคลื่อนไหวไปอย่างรวดเร็ว
Time lapse คือ การถ่ายภาพ หรือ วิดีโอในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งโดยใช้การเร่งความเร็ว การถ่าย Time lapse จะเน้นการถ่ายภาพในสถานที่ใดสถานที่หนึ่งเพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสถานที่นั้นๆ
แล้ว Time lapse กับ Time warp แตกต่างกันตรงไหน หลายๆคนอาจจะแยกความแตกต่างไม่ออก มาดูความความแตกต่างกันดีกว่า
- ลักษณะการถ่าย Time lapse เหมาะสำหรับตั้งกล้องถ่ายอยู่กับที่ ไม่มีการแพนกล้องไปที่อื่น เน้นถ่ายที่ฉากๆเดียว ในขณะที่ Time warp เหมาะสำหรับการถ่ายแบบเคลื่อนที่ มีการแพนกล้องไปในมุมต่างๆ ซึ่งคล้ายกับการถ่าย HyperLapse* (สามารถใช้Time warp ร่วมกับการถ่ายHyperLapse เพื่อใช้ในการเพิ่มระยะในการถ่าย และ ทำให้สามารถถ่ายแบบเคลื่อนไหวได้ดีมากยิ่งขึ้น)
- ลักษณะการใช้งาน Time lapse เป็นการถ่ายภาพทีละภาพ แล้วนำมารวมกันให้กลายเป็นวิดีโอ ตามเวลาที่ต้องการ อย่างเช่น ถ้าเราต้องการ timelapse 10 นาที 30 FPS เราจะต้องทำการถ่ายภาพทั้งหมด 300 ภาพ ส่วน Time warp เป็นการถ่ายวิดีโอที่ต้องอาศัยการแพนกล้อง การเคลื่อนที่ และ อุปกรณ์เสริม เช่น ขาตั้งกล้อง ไม้เซลฟี่ เพื่อทำให้วิดีโอสมูทมากยิ่งขึ้น ซึ่งความลื่นไหลของวิดีโอขึ้นกับความนิ่งในการถ่ายด้วย
- ความรู้สึกของวิดีโอที่ได้ Time lapse ให้ขอบเขตการมองภาพที่กว้างมากกว่า time warp ซึ่งให้ความรู้สึกไหลลื่น สมูท สามารถเก็บวิว โลเคชั่นต่างๆได้หมด จะแตกต่างจากแบบ Time warp ที่ขอบเขตการมองเห็นแคบมากกว่า แต่ให้วิดีโอที่มีความสนุก ตื่นเต้น ด้วยมุมมองต่างๆที่เปลี่ยนไป ซึ่งทำให้วิดีโอไม่น่าเบื่อ
- ระยะเวลาในการถ่าย Time lapse เวลาในการถ่ายจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ต้องการ เพราะต้องถ่ายอยู่ที่สถานที่เดิมๆ เพื่อเก็บภาพให้ได้พอที่จะนำมาทำวิดีโอ ส่วน Time warp เวลาที่ใช้ในการถ่ายค่อนข้างนาน เพราะต้องมีการแพนกล้องไปทีละนิดเพื่อความสมูทของวิดีโอ และ ต้องรักษาระดับของภาพให้เท่ากัน ทำให้ใช้เวลามากในการถ่าย
สามารถอ่าน บทความ GoPro timelapse เพิ่มเติมได้ที่นี่
รายละเอียดของ Time warp ที่ GoPro ทำได้
การทำงาน : เนื่องจากการถ่าย Time warp จะทำการประมวลผลในกล้องเลย ทำให้เราจะต้องเลือกความเร็วตั้งแต่เริ่ม จากนั้นกล้องจะสร้างวิดีโอขึ้นมา
ความละเอียด และ อัตราส่วน : อัตราส่วนของ Time warp เหมือนกันกับ Time lapse คือมีอัตราส่วน 16 : 9 (4K 1080p) และ 4 : 3 (2.7K 1440p)
วิธีคำนวณการถ่าย Time warp
ความเร็วในการถ่ายวิดีโอ : มีความเร็วตั้งแต่ 2x , 5x , 10x , 15x และ 30x
- ความเร็ว 2x – เวลาในการถ่าย1m > ให้ความยาวของวิดีโอ 30s
- ความเร็ว 5x – เวลาในการถ่าย1m > ให้ความยาวของวิดีโอ 10s
- ความเร็ว 10x – เวลาในการถ่าย5m > ให้ความยาวของวิดีโอ 30s
- ความเร็ว 15x – เวลาในการถ่าย5m > ให้ความยาวของวิดีโอ 20s
- ความเร็ว 30x – เวลาในการถ่าย5m > ให้ความยาวของวิดีโอ 10s
จะต้องดูว่าต้องการวิดีโอความยาวเท่าไหร่ ก็ให้เลือกใช้ความเร็วให้เหมาะสม ความเร็วที่ 10x เหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอที่มีความยาวค่อนข้างนาน
จะถ่ายอะไร ต้องใช้ความเร็วเท่าไหร่?
ไม่ใช่ว่าความเร็วมากสุดจะดีที่สุด การถ่ายอะไรบางอย่าง ต้องอาศัยความเหมาะสม ถึงจะทำให้สามารถถ่ายวิดีโอออกมาได้อย่างสมบูรณ์
- ความเร็ว 2-5x เหมาะสำหรับ ใช้ถ่ายวิวที่ไม่เน้นการเคลื่อนไหวที่ชัดเจน เป็นการถ่ายเพื่อเก็บบรรยากาศ เช่น การถ่ายวิวข้างทางระหว่างขับรถ เป็นต้น
- ความเร็ว 10x เหมาะสำหรับ ใช้ถ่ายวิวที่เน้นการเดินทาง เคลื่อนไหว ในระยะทางไกลๆ เช่น ถ่ายการเดินเที่ยว เดินป่า
- ความเร็ว 15-30x เหมาะสำหรับ ใช้ในการถ่ายที่เน้นการเคลื่อนไหวเยอะๆ เน้นการถ่ายเพื่อความสมูท เช่น ถ่ายการวิ่ง เดิน หรือ ปั่นจักรยาน เป็นต้น
อยากถ่าย Time warp เลือกกล้อง GoPro
สำหรับใครที่อยากเปิดประสบการณ์การถ่าย Time warp ต้องนี่เลย กล้อง GoPro กล้อง action camera ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการที่จะช่วยให้คุณสนุกกับการถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอมากยิ่งขึ้น เปลี่ยนการถ่ายวิดีโอแบบเดิมๆ ให้เป็นช่วงเวลาสุดพิเศษ อีกทั้งยังมาพร้อมกับโหมดต่างๆ ให้คุณได้เล่นอีกมากมาย และ เจ๋งกว่าเดิมด้วย Timewarp 3.0 ที่อยู่ใน GoPro 9 ที่คุณจะสามารถถ่าย Timewarp 3.0 แล้วกดเปลี่ยนมาเป็นความเร็วปกติได้ และ ในรุ่นของ GoPro MAX ที่สามารถถ่าย MAX Timewarp เพื่อให้วิดีโอแบบ 360 องศา
เป็นเจ้าของ GoPro ได้เลยตอนนี้ และ พิเศษมากกว่าเมื่อซื้อกล้องโกโปรที่ร้าน AquaPro ที่มาพร้อมโปรโมชั่น และ ของแถมมากมาย!!!!
ติดตาม AquaPro เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชั่นใหม่ ๆ ทั้งกล้อง GoPro และอุปกรณ์เสริม GoPro ได้หลากหลายช่องทางที่
Facebook : AquaproThailand
Line : @aquapro
Shopee : Aquaprothailand