ยุคนี้มันยุคแห่งการ Vlog สายท่องเที่ยว สายยูทูบเบอร์ไม่ควรพลาด!!! ใครที่กำลังจะเริ่มต้นถ่ายวิดีโอ หรือ ถ่ายวิดีโออยู่แล้วแต่อยากเพิ่มคุณภาพของวิดีโอให้ดียิ่งขึ้นโดยเฉพาะในเรื่องของเสียง ไมค์ยอดนิยมที่หลายๆ คนเลือกใช้ก็คงหนีไม่พ้นไมโครโฟนแบบไร้สาย ไมโครโฟนขนาดเล็กพกพาง่าย วันนี้ทาง Aquapro จะมาแนะนำไมค์ Wireless รุ่นยอดฮิตจากสองแบรนด์มาเทียบกันให้เห็นๆ ไปเลยว่าระหว่าง Saramonic Blink 500 Pro vs Rode Wireless Go 2 รุ่นไหนดีกว่ากัน แล้วแต่ละตัวรุ่นไหนดี รุ่นไหนเด่นด้านไหนบ้าง ใครที่กำลังมองหาไมค์ไร้สายดีๆ ควรอ่าน!!!
Saramonic Blink 500 Pro vs Rode Wireless Go 2 ตัวไหนดีกว่ากัน!!!
หากพูดถึงไมค์แบบ Wireless ไม้ไร้สายรูปแบบนี้จะเป็นไมโครโฟนรูปแบบ Omnidirectional condenser ซึ่งเป็นไมค์ที่สามารถรับเสียงได้รอบทิศสามารถเก็บรายละเอียดของเสียงได้ดี สามารถรับเสียงได้คุณภาพสูง แต่เพราะสามารถรับเสียงได้รอบทิศ เลยอาจทำให้เกิดเสียงรบกวนได้ง่าย ทางแก้คือเวลาที่พูดต้องพยายามให้ไมค์อยู่ใกล้คนพูดมากที่สุด เพื่อทำให้เสียงที่พูดดังกว่าเสียงรบกวน นอกจากนั้นด้วยความที่เป็นไมค์ไร้สายเลยทำให้เวลาใช้งานสะดวก ไม่เป็นภาระเวลาใช้งาน ใช้งานได้ง่ายส่วนใหญ่มักจะสามารถหนีบตามเสื้อผ้าได้ และ สามารถติดเข้ากับกล้อง อุปกรณ์อื่นๆ ได้ นอกจากนั้นในส่วนของฟังก์ชั่นเสียงยังสามารถใช้งานได้ทั้งแบบ Stereo และ Mono ทำให้ได้ไฟล์เสียงที่สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย
รูปร่างตัวบอดี้
ในส่วนของตัวที่เป็นSaramonic Blink 500 Pro จะมีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขอบมน มีน้ำหนักเบาประมาณ 26 – 34g ( ตัวรับ 26g และ ตัวส่ง 34g ) มีขนาดเล็กพกพาได้ง่ายตัวรับจะมีขนาด 62 × 33 × 15.5 mm และ ตัวส่งขนาด 63 × 43 × 16.5 mm มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขาวดำที่สามารถบอกสถานะการทำงานของไมค์ ปริมาณแบตเตอรี่ ความแรงของการเชื่อมต่อ และ คุณภาพของสัญญาณ ใครที่ชอบรูปร่างที่กะทัดรัด หยิบจับได้ง่ายรูปแบบนี้น่าจะจับได้ถนัดมากกว่า น้ำหนักพอดีต่อการพกพา แถมยังมาพร้อมพอร์ต 3.5 mm สำหรับต่อไมค์แบบมีสาย ( Lavaier ) ส่วนอีกตัวอย่างRode Wireless Go 2 จะมาในรูปแบบทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขอบมน มีน้ำหนักเบาเพียง 30 – 32g ( ตัวรับ 30g และ ตัวส่ง 32g ) ตัวรับ และ ตัวส่งมีขนาด 44 x 45.3 x 18.3 mm ในส่วนของหน้าจอเป็นหน้าจอสีขนาดใหญ่ ที่สามารถบอกสถานะการทำงาน ระดับพลังงาน ระดับเสียง และ สัญญาณการเชื่อมต่อ มาพร้อมช่องต่อไมค์เสริม 3.5 mm และ ช่อง USB – C สำหรับต่อกับอุปกรณ์เสริม รูปทรงเป็นทรงที่ทำให้เห็นสถานะการใช้งานที่หน้าจอได้ง่ายกว่าไมค์อีกตัว
ระยะความถี่ และ การส่งสัญญาณ
ไมค์แบบไร้สายจะสามารถส่งสัญญาณได้ก็ต่อเมื่อมีตัวส่งสัญญาณ และ ตัวรับสัญญาณ โดยความถี่ที่ไมค์ทั้งสองทำได้จะอยู่ในช่วงความถี่ 2.4 GHz โดยที่Saramonic Blink 500 Pro สามารถเก็บรายละเอียดของเสียงได้ตั้งแต่ 50 Hz – 18 KHz และ ในเรื่องของการส่งสัญญาณจะมีตัวรับแบบ 1 : 1 คือ มีตัวส่ง 1 ตัว และ มีตัวรับ 1 ตัว ( สำหรับบางรุ่นจะมีตัวType C ด้วย ) ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ส่วนRode Wireless Go 2 จะสามารถเก็บรายละเอียดของเสียงได้ตั้งแต่ 50 Hz – 20 KHz สามารถเก็บรายละเอียดเสียงได้กว้างกว่ารุ่นซาราโมนิคเล็กน้อยแทบจะไม่ค่อยต่างกันมากนัก ส่วนตัวส่ง และ ตัวรับเป็นแบบ 1 : 1 หากคนพูดมีคนเดียวจะรับเสียงได้ดีกว่าการพูดหลายคน
ระยะสัญญาณ
เนื่องจากเป็นไมค์แบบไร้สายระยะการส่งสัญญาณของไมค์จากตัวส่งมาที่ตัวรับจึงสำคัญมากSaramonic Blink 500 Pro สามารถส่งสัญญาณได้ไกลสุดในระยะ 100 เมตร และ Rode Wireless Go 2 สามารถส่งสัญญาณได้ไกลสุด 70 เมตร หากเกินกว่านั้นจะทำให้สัญญาณขาดหาย ติดๆ ดับๆ จะเห็นได้ชัดว่ารุ่นของซาราโมนิคสามารถส่ง และ รับสัญญาณได้ดีกว่ามาก แต่ในทั้งสองรุ่นสามารถส่งสัญญาณได้ไกล นิ่ง และ มีความเสถียรด้วยกันทั้งสองรุ่น อยู่ที่ว่าคุณจะใช้ไมค์ในระยะทางประมาณไหนหากใครที่เน้นการเดินทางไกลๆ ไลฟ์สด รุ่นซาราโมนิคอาจจะตอบโจทย์มากกว่า
แบตเตอรี่
ในส่วนของแบตเตอรี่ หากชาร์จจนแบตเตอรี่เต็มสามารถใช้งานอย่างต่อเนื่องได้ยาวนาน ในส่วนของ Saramonic Blink 500 Pro สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 8 ชั่วโมง และ เมื่อแบตเตอรี่หมดสามารถชาร์จเข้าไปในกล่องเก็บไมค์ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ในตัว ซึ่งมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 2000 mAh (ทำให้สามารถใช้งานได้ 8 ชั่วโมงต่อหนึ่งการชาร์จ) เพียงแค่วางไมค์ลงไปในช่องก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ทันที ทำให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง แต่ถ้าเป็นRode Wireless Go 2 สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 7 ชั่วโมง แต่ก็มาพร้อมกับโหมดประหยัดพลังงานในตัว โหมดนี้จะช่วยในการลดความสว่างของหน้าจอแสดงผลทำให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น แต่ก็อาจจะไม่มีที่ชาร์จแบตเตอรี่ในตัวแบบซาราโมนิค หากต้องการใช้งานอย่างต่อเนื่องแบตเตอรี่ของซาราโมนิคอยู่ได้นานกว่า และ สามารถชาร์จแบตไปได้ในตัวเหมือนเป็นแบตสำรอง ทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากกว่า
เซตของไมโครโฟน
หากใครที่ชื่นชอบความหลากหลายทั้งในเรื่องของสี และ รูปแบบของไมค์ที่มีมาให้เลือกทั้งรูปแบบปกติ และ รูปแบบของไมค์กับ Type-C ในส่วนของตัวเซตที่มีมาให้เลือก Saramonic Blink 500 Pro มีให้เลือกหลากหลายกว่ามีมาให้เลือกถึง 6 เซตตามรูปแบบการใช้งานของคุณ
- B1 – 1 : 1 ( ตัวส่ง1 ตัวรับ1 ) มีให้เลือกทั้งสีดำ และ สีขาว ราคาประมาณ 5,990 บาท
- B2 – 2 : 1 ( ตัวส่ง2 ตัวรับ1 ) มีให้เลือกทั้งสีดำ และ สีขาว ราคาประมาณ 8,990 บาท
- B3 / B4 / B5 / B6 – 1 : 1 / 2 : 1 / Type C มีให้เลือกทั้งสีดำ และ สีขาว ราคาประมาณ 7,990 – 10,950 บาท ( แต่ละเซตก็จะแตกต่างกันไปบางเซตจะเป็น ไมค์ที่มาคู่กับ Type-C )
ส่วนสำหรับ Rode Wireless Go 2 จะมีรูปแบบน้อยกว่า ให้คุณได้เลือกใช้งานตามความชอบ
- Rode Wireless Go 2 – 1 : 1 ราคาประมาณ 9,900 บาท
- Rode Wireless Go 2 – 2 : 1 ราคาประมาณ 11,900 – 14,600 บาท
รุ่นไหนมีอะไรดี ?
พอมาถึงตรงนี้คุณอาจจะเกิดความลังเลว่าจะเลือกไมค์ตัวไหนดี การเลือกก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานว่าคุณเป็นคนที่ใช้งานแบบไหนมากกว่า รวมทั้งความชื่นชอบส่วนตัวว่าชอบดีไซน์แบบไหนด้วย
- Saramonic Blink 500 Pro น่าจะตอบโจทย์ของคุณมากกว่า นอกจากนั้นยังมีตัวส่ง และ ตัวรับสัญญาณที่หลากหลายมากว่า หากเป็นคนที่ถ่ายวิดีโอ Vlog แบบหลายคน มีคนถามคนตอบไมค์ที่มีหลายตัวส่งน่าจะใช้งานได้ดีกว่า และ ยังสามารถส่งสัญญาณได้ไกล ระยะเวลาในการใช้งานของแบตเตอรี่ก็มากกว่า และ ยังสามารถชาร์จแบตภายในตัวกล่องได้เลย ทำให้เหมาะแก่การใช้งานที่ต่อเนื่องมากกว่า แถมระยะการส่งสัญญาณยังมากถึง 100 เมตรเลยทีเดียว
- Rode Wireless Go 2 เหมาะสำหรับใครเป็นสายที่เน้นการใช้งานร่วมกับกล้อง ไม่เน้นติดเข้ากับเสื้อผ้า หรือ ไม่เน้นการขยับการเดินมากนัก เนื่องจากหน้าจอแสดงผลที่เป็นจอสี และ มีขนาดใหญ่ทำให้เราสามารถเห็นสถานะของไมค์ แบตเตอรี่ของไมค์ได้ดีมากกว่า มาพร้อมกับระยะความถี่ที่มากกว่า แต่ก็สามารถใช้งานได้ดีหากใครที่ไม่ได้เน้นระยะห่างที่ไกล เน้นใช้งานภายใน พูดใกล้ๆ ตัวรุ่นนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์
ซื้อเลย Saramonic Blink 500 Pro ที่ร้าน Aquapro !!!
คุ้มสุดซื้อ ไมค์Saramonic blink 500 Pro รวมทั้งกล้องโกโปร และ อุปกรณ์เสริมอื่นๆ กับร้าน Aquapro ร้านตัวแทนจำหน่ายกล้องโกโปรแท้ที่มาพร้อมกับ GoPro 10 โปรโมชั่น สุดคุ้ม ของแถมจุกๆ โปรส่งฟรี พร้อมโปรผ่อนชำระ 0%* (ทุกอย่างเป็นไปตามที่ร้านกำหนด) นอกจากจะจำหน่ายโกโปรแล้ว เรายังมีกลุ่มสำหรับแนะนำข่าวสาร และ เทคนิคการใช้งานเกี่ยวกับโกโปรเพิ่มเติมที่สาวกโกโปรควรจะรู้ อย่าพลาดข่าวสารดีๆนะ!!! ติดตามได้ตาม link ด้านล่างเลย
>> GoPro Club กลุ่มสำหรับคนรักกล้องโกโปร <<
ติดตามและสั่งซื้อสินค้า AquaPro เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชั่นใหม่ ๆ ทั้งกล้อง GoPro และอุปกรณ์เสริม GoPro ได้หลากหลายช่องทางที่
Facebook : AquaproThailand
Line : @aquapro
Shopee : Aquaprothailand
GoPro Group : GoPro Club กลุ่ม พูดคุย ซื้อขาย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับ GoPro