ถ้าพูดถึงกล้อง GoPro ตัวท็อปอย่าง GoPro 9 vs GoPro 8 ที่อีกตัวเป็น GoPro น้องใหม่ที่พึ่งเปิดตัว และ อีกตัวเป็น GoPro ยอดฮิตที่ใครๆชื่นชอบ หากคุณกำลังมีแพลนที่จะซื้อ GoPro แล้วละก็บทความนี้มีคำตอบ ว่าเมื่อเปรียบเทียบสเปคกันชัดๆแล้ว แต่หากใครที่อยากรู้ว่า ที่ตัว GoPro 8 ไม่มี แต่มีในรุ่น GoPro 9 สามารถเข้าไปอ่านบทความ สเปค GoPro 9 Action Camera สุดโหดจากค่ายเมนตาแกรม!!! แบบเต็มๆได้ที่นี่ แต่ถ้าใครที่อยากรู้ว่าในแต่ละโหมดเปลี่ยนไปบ้าง อ่านบทความกันเลย!!!
เทียบให้ชัดสเปค GoPro 9 vs GoPro 8 ต่างกันอย่างไร
Cost
GoPro 8 : ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 14,500 บาท ซึ่งมีราคาที่ถูกกว่าตัว GoPro 9
GoPro 9 : ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 15,999 บาท มีราคาสูงกว่าตัว GoPro 8 อยู่ 1,499 บาท เมื่อเทียบกันแล้วราคาต่างกันไม่มาก เมื่อเทียบกับสเปคที่เราได้จาก GoPro 9
Monitor (LCD Screen)
GoPro 8 : ทัชสกรีนได้ ขนาดของหน้าจออยู่ที่ 1.95 นิ้ว ซึ่งเล็กกว่าตัว GoPro 9
GoPro 9 : ทัสกรีนได้ ขนาดของหน้าจออยู่ที่ 2.25 นิ้ว ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าตัว GoPro 8 ถึง 17% ทำให้สามารถทัชสกรีนได้ดี และ ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นทำให้เราสามารถมองภาพดีมากยิ่งขึ้นอักด้วย
Monitor (Front Monitor)
GoPro 8 : หน้าจอ ขาว-ดำ สามารถดูสเตตัชกล้องได้ มีหน้าจอที่เล็กกว่า GoPro 9
GoPro 9 : หน้าจอ สี อีกทั้งยังมาพร้อมกับหน้าจอ ขนาด 1.4 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่าเดิมถึง 16% และ หน้าจอที่แสดงผลที่สามารถดูวีดีโอที่เราถ่ายอยู่ได้ ทำให้เราเราสามารถดูมุมจากจอหน้าได้ ซึ่งเหมาะกับสาย Vlog มาก ซึ่งการที่สามารถดูจากกล้องหน้าได้ถือว่าเป็นการพัฒนาที่ก้าวกระโดดของ GoPro 9
Button
GoPro 8 : ปุ่มจะคล้ายกับในรุ่น GoPro 9 แต่จะแตกต่างกันนิดหน่อย
GoPro 9 : ปุ่มจะมีความนูนกว่าตัว GoPro 8 เวลาที่สัมผัสจะรู้สึกกดปุ่มมากกว่าตัว
Battery
GoPro 8 : มีความจุของแบตเตอรี่อยู่ที่ 1,220 mAh ซึ่งน้อยกว่าตัว GoPro 9
GoPro 9 : มีความจุของแบตเตอรี่ อยู่ที่ 1,720 mAh ซึ่งมากกว่าตัว GoPro 8 อยู่ถึง 500 mAh ซึ่งมากขึ้นถึง 30% ทำให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 1.41 ชั่วโมง ซึ่งนานกว่า Gopro 8 ถึง 0.26 ชั่วโมง ทำให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น
Microphone
GoPro 8 : มีไมโครโฟน 3 ตัว เท่ากันกับตัว GoPro 9 ให้คุณภาพของเสียงที่ไม่แตกต่างกันมาก
GoPro 9 : มีไมโครโฟน 3 ตัว เท่ากัน แต่เมื่อทำการทดสอบ จะพบว่าในรุ่น GoPro 9 ไมโครโฟนมีการพัฒนาให้สามารถตัดเสียงลมได้ดดีกว่าตัว GoPro 8
Sensor
GoPro 8 : ตัวเซนเซอร์ให้ความละเอียดถึง 12 ล้านพิกเซล ซึ่งน้อยกว่า GoPro 9
GoPro 9 : มีการเปลี่ยนแปลงตัวเซนเซอร์ใหม่ ทำให้สามารถให้ความละเอียด คมชัด ได้ถึง 23.6 ล้านพิกเซล ซึ่งมากกว่าตัว GoPro 8 ถึง 8 ล้านพิกเซล ซึ่งการเปลี่ยนเซนเซอร์ใหม่ จะทำให้การถ่ายภาพนิ่งดีมากยิ่งขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ เนื่องจากตัวเซนเซอร์จะมีผลต่อความคมชัดของภาพ และ วีดีโอ
Video resolution
GoPro 8 : ให้ความละเอียดที่ 4K 60 FPS
GoPro 9 : ให้ความละเอียดที่ 5K 30 FPS ในส่วนที่เป็น 4K ทำได้ 60 FPS เหมือนกัน
การถ่ายวีดีโอแบบ 5K30FPS จะให้สเกลภาพที่มีความชัดที่ความละเอียดที่ค่อนข้างสูง แต่ถ้าเราจะใช้จริงในระดับ 4K สามารถเลือกRender ในโปรแกรมและเราจะได้ภาพ 4K ที่มีความคมชัดมากกว่าไฟล์วีดีโอที่ถูกถ่ายในความคมระดับ 4K หรือใครที่จะนำไปไปครอปวิดีโอ ก็จะทำให้ได้วิดีโอที่มีความละเอียดสูง หยืดหยุ่นสำหรับการนำไปทำต่อ
Photo resolution
GoPro 8 : ความละเอียดอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล ซึ่งน้อยกว่าตัว GoPro 9
GoPro 9 : ความละเอียดอยู่ที่ 20 ล้านพิกเซล ซึ่งมากกว่าตัว GoPro 8
ยิ่งภาพที่มีความละเอียดสูงๆ ก็จะยิ่งทำให้รูปมีความคมชัดมากยิ่งขึ้น และ ส่งผลให้เวลาที่ซูมดู จะทำให้รอยหยักของขอบภาพน้อยลง รวมทั้งจะทำให้ภาพดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเวลาที่เรานำภาพ หรือ วีดีโอไปใช้งานต่อ ก็สามารถนำไปใช้งานได้ง่าย ทั้งการบีบอัดรูป การขยายรูป ครอปรูป จะทำให้รูปที่ได้มีรายละเอียดที่ชัดเจนสมบูรณ์ อีกทั้งภาพที่ได้ยังดูสมจริงมากยิ่งขึ้น
HyperSmooth
GoPro 8 : HyperSmooth เวอร์ชั่น 2.0
GoPro 9 : HyperSmooth เวอร์ชั่น 3.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ถูกอัพเกรดจาก GoPro 8 ให้วีดีโอมีความนิ่งมากยิ่งขึ้น ทำให้รองรับการเคลื่อนไหวที่ดีมากขึ้นโดยไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริม และ สิ่งที่เพิ่มมานั้นก็คือ Horizontal leveling ที่สามารถทำได้ในตัวกล้องได้เลยไม่เหมือกับ Gopro 8 ที่ต้องนำไปทำในแอพพลิเคชั่น
Time Warp
GoPro 8 : Time Warp เวอรชั่น 2.0
GoPro 9 : Time Warp เวอรชั่น 3.0 ในเรื่องภาพไม่ต่างกันมาก แต่ในโหมด Realtime สามารถสามารถบันทึกเสียงเข้าไปได้ และ สามารถดึงสโลโมชั่นจากหน้ากล้องได้เลยเราไม่ต้องไปใส่เสียงในโปรแกรมตัดต่อให้วุ่นวาย สามารถจบหลังกล้อง ทำให้เราสะดวกสบายมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถเลือกให้ Slow Motion ได้อีกด้วย ให้คุณสมบัติเทียบเท่ากล้องโปร แต่ง่ายกับการใช้งาน
Super Photo
GoPro 8 : ไปทางโทนเย็นกว่า เมื่อเทียบกับ GoPro 9
GoPro 9 : มีความเป็นธรรมชาติของภาพมากกว่าใน GoPro 8 อีกทั้ง สียังมีความอิ่มตัวมากกว่า ซึ่งจะออกไปทางโทนร้อนมากกว่า และ คอนทราสที่สูงกว่าเล็กน้อย
Night Photo
GoPro 8 : สีออกไปทางโทนเย็น และ มีความฟุ้งของสีที่ดีกว่าในรุ่น GoPro 9
GoPro 9 : ภาพของ GoPro 9 จะมีสีออกไปทางโทนเหลืองมากกว่า อีกทั้งยังมีความฟุ้งของสีที่มากกว่าในตัว GoPro 8 แต่เมื่อถ่ายในที่แสงน้อย หรือ ตอนกลางคืน ให้ภาพที่สว่าง และ คมชัดมากกว่า ทำให้ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ที่เป็น ไฟเสริม ให้ยุ่งยาก แค่กล้องก็จบ
เราเหมาะกับรุ่นไหนกันแน่
- GoPro 9 : หากคุณต้องการกล้องที่สามารถใช้งานได้ ในทุกๆ สถานการณ์ ต้องบอกเลยว่าจากการใช้งานจริง ตัว Horizon leveling ที่เพิ่มเข้ามา ทำให้คุณไม่ต้องไปทำต่อในแอพพลิเคชั่น ซึ่งทำให้คุณสะดวก สบายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นกันสั่นที่โหดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งฟีลเจอร์ต่างๆอย่าง Hide side ที่ทำให้เราไม่พลาดทุกทุกช็อตการใช้งาน ทำให้เราจะได้วิดีโอในความละเอียดที่สูงถึง 5K 30 FPS ใครที่ชอบหน้าจอใหญ่ๆ รวมถึงกล้องหน้าที่ทำให้เราสามารถใช้งานได้หลากหลายและเห็นตัวเองเวลาถ่ายต้องชอบ ทำให้ง่ายต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น ถ้าใครชอบความ ครบ จบ ที่กล้องเดียวต้องนี่เลย GoPro 9 เท่านั้น
- GoPro 8 : หากใครที่ชอบกล้องตัวเล็กๆ ที่พกพาสะดวก หรือไม่ได้ใช้งานหนักๆ พกเป็นกล้องเสริมเวลาเดินทางไปเที่ยว ไม่ได้เน้นถ่ายอะไรมากมาย ไม่ได้ต้องการคุณภาพของภาพถึง 5K 30 FPS ก็บอกได้เลยว่าตัว GoPro 8 เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่แย่
“โปรโมชั่นGoPro 9 ราคาถูกที่สุด ซื้อได้ที่ร้าน AquaPro เท่านั้น”
ติดตาม AquaPro เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชั่นใหม่ ๆ ทั้งกล้อง GoPro และอุปกรณ์เสริม GoPro ได้หลากหลายช่องทางที่
Facebook : AquaproThailand
Line : @aquapro
Shopee : Aquaprothailand