เปรียบเทียบกล้องแอคชั่นแคม ปี 2022 ระหว่าง GoPro 11 vs Insta360 x3 กล้องขนาดพกพา ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถเฉพาะตัว แต่ก่อนที่จะไปพูดถึงด้านการใช้งาน ทาง Aquapro จะพาทุกคนไปดูในเรื่องของดีไซน์กันก่อนว่าแต่ละรุ่นจะแตกต่างกันอย่างไร ถ้าพร้อมแล้วไปดูกัน!
ดีไซน์ GoPro 11 vs Insta360 x3
เมื่อพูดถึงกล้องขนาดพกพาอย่าง GoPro และ Insta360 หลายๆ คนคงรู้จักกันมาบ้างแล้ว ด้วยชื่อเสียงของการเป็นกล้อง Action Camera ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว โดยในหัวข้อนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกเรื่องดีไซน์ระหว่าง GoPro 11 และ Insta360 x3 ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีดีไซน์ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
GoPro 11
สำหรับ GoPro Hero 11 Black ยังคงมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับรุ่น GoPro 10 และ GoPro 9 มีขนาด 71.8×33.6×50.8 มม. และหนักเพียง 154 กรัม พื้นที่ด้านหน้ากล้องประกอบไปด้วยจอ Live Preview ขนาด 1.4 นิ้ว ด้านบนเป็นไฟแสดงสถานะของแบตเตอรี่
ถัดมาด้านข้างจอเป็นกล้องความละเอียด 27 ล้านพิกเซล กระจกหน้าเลนส์ยังคงเป็น Hydrophobic Glass ตัวช่วยกันละอองน้ำ พิเศษมากกว่านั้นคือ ในรุ่นนี้มี Max Lens Mod มาให้ภายในตัว บริเวณใต้กล้องเป็นไมโครโฟน 3 ตัว และด้านหลัง คือ หน้าจอ LCD แบบทัชสกรีนขนาด 2 นิ้ว
ปุ่มบริเวณด้านขวาสามารถใช้งานได้ 2 รูปแบบ คือ เป็นปุ่ม Power และ เปลี่ยนโหมดการใช้งาน ด้านซ้ายกล้องจะเป็นช่องใส่ SD Card และ พอร์ต USB Type-C สำหรับด้านบนตัวกล้องจะเป็นปุ่มชัตเตอร์ ส่วนด้านล่างจะเป็น Folding Fingers หรือขายึดกล้องเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมต่างๆ
Insta360 x3
ด้านกล้องแอคชั่นแคมอย่าง Insta360 x3 ก็ไม่น้อยหน้าด้านการดีไซน์ มีรูปทรงคล้ายกับสมาร์ทโฟน และมีน้ำหนัก 180 กรัม หรือ เทียบเท่าส้ม 1 ผล ทั้งด้านหน้าและด้านหลังประกอบไปด้วยกล้อง Module ในส่วนของด้านหน้านอกจากกล้อง Module แล้วยังประกอบไปด้วยสัญลักษณ์ยี่ห้อ Insta360 x3 และไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่
ถัดมาจากกล้อง Module คือ หน้าจอ LCD ระบบทัชสกรีน ถัดมาเป็นปุ่ม 2 ปุ่ม ปุ่มแรก คือ ปุ่มชัตเตอร์ ส่วนปุ่มที่ 2 คือ ปุ่มสำหรับปรับรูปแบบฟังก์ชัน ด้านล่างสุด คือ ตัวเชื่อมต่อขาตั้งกล้อง, Selfie Stick หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ด้านขวามือเป็นพอร์ต USB Type-C ถัดมาจะเป็นช่องใส่แบตเตอรี่ และ SD Card
ด้านซ้ายมือประกอบไปด้วย ปุ่ม Power และ ปุ่ม Q หรือปุ่ม Quick Menu แสดงแถบเมนูที่ตั้งค่าไว้ และในรุ่นนี้มีไมค์รอบทิศทางมาให้ถึง 4 ตัวด้วยกัน บอดี้โดยรวมของตัวกล้องยังคงใช้วัสดุที่ช่วยป้องกันน้ำ และมีความทนทานเหมือนกับรุ่น Insta360 one x2 แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม คือ หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น และเป็นจอแบบ Tempered Glass ให้ความสว่างและความชัดมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ Wi-fi ยังเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 50% อีกด้วย
เปรียบเทียบ GoPro 11 vs Insta360 x3 ด้านการใช้งาน
เมื่อพูดถึงเรื่องดีไซน์ของ GoPro 11 vs Insta360 x3 กันไปแล้ว สำหรับใครที่เป็นสายกล้อง Action Camera สิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือ สเปคการใช้งาน ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติการใช้งานอย่างไร และมีความโดดเด่นในด้านใดบ้างในหัวข้อนี้มีคำตอบ!
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ของทั้ง 2 รุ่นนี้ ขึ้นชื่อเรื่องของความทนทานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ในรุ่น GoPro 11 และ Insta360 x3 จะอึดขึ้นขนาดไหนไปดูกัน
- GoPro 11 รุ่นนี้เป็นแบตเตอรี่ชนิด Enduro สามารถทนต่อสภาพอากาศได้ดี เนื่องจากมีการเคลือบที่ดีกว่ารุ่นอื่น และ มีความจุอยู่ที่ 1720mAh สามารถใช้งานได้นานขึ้น 38% หรือ ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องถึง 120 นาที
- Insta360 x3 กล้อง 360 รุ่นนี้เป็นแบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไอออนแบบรีชาร์จ มีความจุอยู่ที่ 1800mAh สามารถใช้งานได้นานขึ้น 10% หรือ ใช้งานต่อเนื่องถึง 81 นาที ด้วยลิเธียมไอออนชนิดใหม่ทำให้ใช้เวลาชาร์จเพียง 90 นาทีเท่านั้น
ดีไซน์ของตัวกล้อง
กล้องทั้ง 2 รุ่นนี้ ตอบโจทย์เรื่องการพกพาเป็นอย่างมาก เพราะมีน้ำหนักเบาและสามารถพกพาไปได้ทุกที่อย่างสะดวกสบาย ซึ่งจุดเด่นด้านการดีไซน์ของกล้องทั้ง 2 รุ่น มีดังนี้
- GoPro 11 กล้องรุ่นนี้มีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มาพร้อมกับน้ำหนักเพียง 154 กรัม ด้วยขนาดที่เล็กและมีน้ำหนักเบา จึงสามารถพกพาติดตัว หรือติดกับอุปกรณ์เสริม เพื่อทำการบันทึกภาพและวิดีโอได้สบายๆ
- Insta360 x3 กล้อง 360 องศารุ่นนี้ มีน้ำหนักอยู่ที่ 180 กรัม ด้วยดีไซน์ที่เรียวเล็ก คล้ายกับสมาร์ทโฟน จึงสามารถพกพาได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเก็บภาพท่องเที่ยวหรือแม้แต่การแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ ก็สามารถทำได้
ระบบสัมผัสของ GoPro 11 และ Insta360 x3
กล้องแอคชั่นรุ่นใหม่ๆ ในตอนนี้ถือว่ามีระบบสัมผัสที่พัฒนาขึ้นจากเดิมมาก ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนโหมดหรืออัพโหลดรูปภาพและวิดีโอ ต่างก็ต้องอาศัยความรวดเร็วของการทัชสกรีนด้วยเช่นกัน และที่สำคัญทั้ง 2 รุ่นนี้สามารถควบคุมการสั่งการด้วยเสียง หรือ
- GoPro 11 รุ่นนี้มาพร้อมกับชิพ GP2 Processers มีระบบสัมผัสที่ลื่นไหล ด้วยขนาดหน้าจอสี LCD ขนาด 2 นิ้ว จึงทำให้มองเห็นรายละเอียดของเมนู และโหมดต่างๆ บนหน้าจอได้อย่างชัดเจน
- Insta360 x3 รุ่นนี้มีหน้าจอสี LCD ขนาด 2.29 นิ้ว ด้วยขนาดของหน้าจอที่ใหญ่จึงทำให้เลือกเมนูต่างๆ ได้ง่าย ไม่ซับซ้อน มาพร้อมปุ่มควบคุมการใช้งานบนตัวกล้องทำให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
ความละเอียดวิดีโอ และ สเกลภาพ
ความละเอียด คือ สิ่งสำคัญของกล้องดิจิตอลทุกชนิด เมื่อมีความละเอียดมากเท่าไหร่ คุณภาพของไฟล์ที่ได้ก็ดีขึ้นเท่านั้น ซึ่งในปีนี้ทาง GoPro และ Insta360 เขามีการเพิ่มความละเอียดที่มากขึ้น เพื่อให้สมกับการเป็นกล้องแอคชั่นแคมที่สามารถเก็บภาพได้ถึง 360 องศา!
- GoPro 11 มีความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ 5.3K 60fps พร้อมภาพขนาดใหม่อยู่ที่ 8:7 สามารถเปลี่ยนเฟรมเป็นขนาด 9:16 ได้ ออกแบบมาเพื่อรองรับผู้ใช้งานบน Instagram และ TikTok
- Insta360 x3 มีความละเอียดวิดีโอสูงสุดที่ 5.7K 30fps ในโหมด 360 องศา รองรับขนาดภาพ 4:5 สำหรับผู้ใช้งาน Social Media หรือ Instagram และสามารถปรับเฟรมเป็น 9:16 เพื่อทำงานบน TikTok ได้ สำหรับ Insta360 x3 มี Single Lens Mode เนื่องจากเป็นกล้อง 360 ซึ่งสามารถถ่ายวิดีโอบนความละเอียดสูงสุดที่ 4K 30fps
ความละเอียดรูปภาพ
ความละเอียดรูปภาพของ GoPro Hero 11 Black และ Insta360 x3 ในปีนี้ได้มีการพัฒนาขนาดเซนเซอร์ที่ใหญ่ขึ้น และมีขนาดเลนส์กว้างขึ้น ต้องบอกเลยว่าในเรื่องความละเอียดรูปภาพทั้ง 2 รุ่นนี้มีความสามารถสูสีกันทีเดียว
- GoPro 11 มีความละเอียดรูปภาพอยู่ที่ 27 ล้านพิกเซล รองรับไฟล์ RAW, Standard, HDR และ Superphoto ในรุ่นนี้ปรับปรุงขนาดเซนเซอร์เป็น 1/1.9 นิ้ว มีฟีเจอร์ครอบภาพจากวิดีโอที่ความละเอียด 24.7 ล้านพิกเซล และมี Max Lens Mod มาให้ภายในตัว นอกจากนี้ยังสามารถเลือกเลนส์ได้ทั้งหมด 4 ระยะ ได้แก่ Hyperview, SuperView, Wide และ Linear
- Insta360 x3 มีความละเอียดรูปภาพอยู่ที่ 72 ล้านพิกเซล รองรับไฟล์ RAW และ DNG ในรุ่นนี้มีการปรับปรุงขนาดเซนเซอร์เป็น 1/2 นิ้ว ทำให้มีความละเอียดและขนาดภาพที่ใหญ่ขึ้น มาพร้อมเลนส์ขนาด F1.9 สามารถจับภาพในมุมที่กว้างขึ้นถึง 6.7 มิลลิเมตร และเลือกลูกเล่นเพื่อเพิ่มสีสันให้การถ่ายภาพได้หลากหลาย ได้แก่ Standard, HDR, Burst, Interval และ Starlapse
ระบบกันสั่น + Horizontal Leveling
ทาง GoPro 11 vs Insta360 x3 ขึ้นชื่อเรื่องระบบกันสั่น และ Horizontal Leveling ซึ่งฟีเจอร์ของแต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติการกันสั่นและกันเอียงเป็นอย่างไรบ้าง ตามไปดูกัน!
- GoPro 11 เพิ่มระบบกันสั่น HyperSmooth เป็น 5.0 และระบบ Auto Boost โหมดครอบภาพอัตโนมัติเมื่อเกิดการสั่น มาพร้อมกับ Horizontal Leveling 360 องศา ไม่ว่าขณะบันทึกวิดีโอกล้องจะหมุนหรือเอียงแค่ไหน ภาพก็ยังคงอยู่ในโฟกัส และยังคงความสมูทได้อย่างดีเยี่ยม
- Insta360 x3 เอกลักษณ์ของกล้อง Insta360 x3 คือ FlowState Stabilization หรือ ระบบกันสั่น และ Active HDR 360 องศา ระบบกันสั่นขั้นเทพที่ปรับแสงสว่างให้ในตัว สามารถรองรับการเคลื่อนไหวได้ทุกทิศทาง ไม่ว่าจะขยับไปทางไหนก็ไม่มีเอียง
โปรไฟล์สี
ระดับความคมชัดของสีกับกล้องแอคชั่นแคมใครว่าไม่สำคัญ?! จริงๆ แล้วสำคัญพอๆ กับความละเอียดของภาพและวิดีโอเลย ซึ่งในปีนี้ทาง GoPro และ Insta360 ก็มีโปรไฟล์สีที่เพิ่มขึ้น! ตามไปดูกันว่าแต่ละรุ่นจะมีโปรไฟล์สีอย่างไรบ้าง
- GoPro 11 มาพร้อมกับโปรไฟล์สี 10-bit color depth หรือเทียบเท่า 1 พันล้านเฉดสี สามารถนำวิดีโอไปปรับแต่งสีได้หลากหลาย โดยที่สีภายในภาพไม่เกิดการช้ำ และยังคงความคมชัดของภาพได้ดี
- Insta360 x3 มีโปรไฟล์สีให้เลือกหลายแบบ ทั้ง Vivid, Standard และ LOG สามารถนำไปปรับแต่งวิดีโอได้แบบมืออาชีพ
โหมด Slow Motion
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ต้องพูดถึงนั่นคือ การถ่ายวิดีโอด้วยโหมด Slow Motion เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวช้าๆ ช่วยสร้างความน่าสนใจให้วิดีโอได้อย่างดีทีเดียว
- GoPro 11 โหมดนี้สามารถถ่ายสูงสุดได้ 8 เท่า ต่อ 240fps บนความละเอียด 2.7K ถ้าต้องการถ่ายสูงสุด 4 เท่า ต่อ 120 fps ให้ความละเอียดสูงสุดที่ 4K
- Insta360 x3 โหมดนี้มีความละเอียดอยู่ที่ 3K 180fps และสามารถดึงภาพได้สูงสุด 120fps บนความละเอียด 4K
โหมดถ่ายกลางคืน
สิ่งสำคัญที่ทำให้การถ่าย Night Mode ออกมาดีคือ ขนาดของเซนเซอร์และค่าความละเอียดที่เหมาะสม ทั้ง 2 รุ่นถือว่ามีความน่าสนใจที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
- GoPro 11 มีค่าความละเอียดของภาพถ่ายที่ 27 ล้านพิกเซล และความละเอียดวิดีโอ 5.3K ที่ขนาดเซนเซอร์ 1/1.9 นิ้ว และฟีเจอร์ Improve Auto Exposure ตัวช่วยปรับแสงสว่างอัตโนมัติของ GoPro 11 จึงทำให้การถ่าย Night Mode สามารถเก็บค่าแสงเงาได้ดีและมีมิติมากขึ้น
- Insta360 x3 รุ่นนี้จะมีชื่อเรียกแตกต่างจาก GoPro คือ Night Shot มาพร้อมกับค่าความละเอียด 72 ล้านพิกเซล และความละเอียดวิดีโอ 5.7K ที่ขนาดเซนเซอร์ 1/2 นิ้ว หากไม่ปรับค่า ISO และ Speed Shutter ให้เหมาะสม ภาพที่ได้จะสว่างน้อยกว่า GoPro 11
ซึ่งโดยรวมแล้วการถ่าย Night Mode ของ GoPro Hero 11 สามารถทำออกมาได้ดีกว่า Insta360 x3 ถึงแม้ว่าจะมีขนาดเซนเซอร์ และค่าความละเอียดน้อยกว่า แต่ข้อได้เปรียบ คือ ช่วยลดการเกิด Noise ได้ดี
โหมด Time Lapse
สำหรับกล้องสายแอคชั่นแคม โหมด Time Lapse คือ หนึ่งในฟีเจอร์ที่ต้องมี! เพราะเป็นลูกเล่นที่ทำให้วิดีโอในเฟรมเรตของคุณไม่ธรรมดา ซึ่งกล้อง 2 รุ่นนี้จะมีความน่าสนใจ และช่วยสร้างสรรค์ความแตกต่างให้กับงานวิดีโอขนาดไหนต้องไปดู!
- GoPro 11 ในโหมด Time Lapse มี TimeWarp ที่ 3.0 และความละเอียดสูงสุดที่ 5.3K ซึ่งความพิเศษของรุ่นนี้มาพร้อมกับพรีเซตช่วยถ่ายตอนกลางคืน ได้แก่ Star Trails, Light Painting และ Vehicle Light Trails
- Insta360 x3 การถ่าย Time Lapse มีค่าความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ 8K และสามารถถ่ายแบบ Bullet Time ที่ 4K 120 fps ได้ หรือถ้าเลือกความละเอียดที่ 3K 180fps จะได้ภาพที่ Slow มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ได้แก่ Time Shift เหมาะสำหรับการถ่าย Vlog เป็นโหมดที่สามารถกำหนดความช้า-เร็วของวิดีโอได้ และ Loop Recording ฟีเจอร์อัดวิดีโอแบบวนลูป เหมาะสำหรับสายไบค์เกอร์
การ Live Stream
ฟีเจอร์ด้านการ Live Stream ของ GoPro 11 และ Insta360 x3 มีคุณสมบัติที่สามารถทำได้ดีเทียบเท่ากัน มีดังนี้
- GoPro 11 รองรับ Live Streaming และการทำงานแบบ Webcam บนความละเอียดสูงสุดที่ 1080p Full HD มีการเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-fi ภายในตัวอย่างรวดเร็ว คุณสามารถทำการบันทึกแล้วส่งข้อมูลขึ้น Cloud อัตโนมัติ
- Insta360 x3 รองรับ Live Streaming ผ่าน Facebook Live และการทำงานแบบ Webcam ทั้งบน Android และ iOS ผู้ใช้งานสามารถควบคุมมุมมองภาพได้แบบ 360 องศา ทำให้การ Live ของคุณแตกต่างจากเดิม
คุณสมบัติในการกันน้ำ
หากพูดถึงดีไซน์ของกล้อง นอกเหนือจากการใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงแล้ว คุณสมบัติสำคัญที่กล้องแอคชั่นต้องมี คือ ความสามารถในการกันน้ำ โดย GoPro และ Insta360 มีความโดดเด่นในเรื่องนี้ใกล้เคียงกัน
- GoPro 11 กล้องรุ่นนี้สามารถกันน้ำได้ลึก 10 เมตร แบบไม่ต้องใส่เคสกันน้ำ ถ้าใส่เคสกันน้ำสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 60 เมตร นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในเรื่องของความทนทาน รองรับแรงกระแทกได้ดี ที่สำคัญตัวเครื่องยังสามารถทนต่อสภาพอากาศเย็นได้กว่ารุ่นก่อนๆ
- Insta360 x3 นอกจากขึ้นชื่อเรื่องของความทนทาน และขนาดกล้องที่พกพาง่ายแล้ว ยังสามารถกันน้ำได้ลึกสูงสุด 10 เมตร แบบไม่ต้องใส่เคสกันน้ำ หากใส่เคสกันน้ำจะช่วยกันน้ำได้ลึกถึง 50 เมตรเลยทีเดียว
สรุปฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ GoPro 11 และ Insta360 x3
สำหรับการเปรียบเทียบกล้องแอคชั่น ระหว่าง GoPro 11 และ Insta360 x3 ทั้ง 2 รุ่นมีคุณสมบัติหลายด้านที่แตกต่างกัน หากถามว่ากล้องทั้ง 2 รุ่นนี้ตอบโจทย์คนกลุ่มไหน? ขอบอกเลยว่าตอบโจทย์สำหรับสาย Content Creator และสายออกทริปเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะรุ่น Insta360 มักจะนิยมในกลุ่มนักแข่งกีฬา ส่วน GoPro จะนิยมในสาย Content Creator เนื่องจากมีฟังก์ชัน และอุปกรณ์เสริมที่หลากหลาย
ส่วนเรื่องฟีเจอร์ที่น่าสนใจหากเป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นของ GoPro 11 คือ เรื่องโปรไฟล์สีที่เพิ่มขึ้นเป็น 10-bit color deoth, พรีเซตช่วยถ่ายกลางคืน และคุณสมบัติของแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น 38% และด้านความโดดเด่นของ Insta360 x3 คือ Voice Control ที่เพิ่มขึ้นเป็น 2.0, มีการเชื่อมต่อ Wi-fi เร็วขึ้น 50% และสามารถเก็บเรื่องราวได้รอบตัวถึง 360 องศาผ่านการ Live Streaming
ทั้งนี้การเลือกใช้งานควรเลือกตามความเหมาะสม เพราะกล้องแต่ละรุ่นสามารถตอบโจทย์ด้านการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของผู้ใช้งาน และถ้าใครที่สนใจสามารถเลือกซื้อกล้องได้โดยรายละเอียดราคาเปิดตัวของ GoPro 11 อยู่ที่ 18,500 บาท และทางด้าน Insta360 x3 มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 17,900 บาท หากเลือกซื้อผ่าน Aquapro มีโปรโมชั่นมากมายรออยู่อีกเพียบ!
รวมสุดยอดกล้อง Action Cam ขั้นเทพ ต้องที่ Aquapro
มองหากล้องสำหรับออกทริปกันอยู่รึเปล่า? ขอแนะนำ Aquapro ร้านจำหน่ายกล้องโกโปรแท้ และอุปกรณ์เสริมอิเล็กทรอนิกส์มากมาย พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้ม และโปรส่งฟรี (ทุกอย่างเป็นไปตามร้านกำหนด) ทำให้คุณไว้วางใจด้วยสินค้าที่มีคุณภาพ
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มแนะนำข่าวสาร และเทคนิคการใช้งานสำหรับกล้องโกโปรเพิ่มเติม หากใครสนใจติดตามได้ที่ GoPro Club แล้วคุณจะรู้เกี่ยวกับการใช้งานมากยิ่งขึ้น ห้ามพลาดเลย!
ติดตาม และ สั่งซื้อสินค้า AquaPro เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชั่นใหม่ๆ ได้หลากหลายช่องทางที่
Facebook : AquaproThailand
Line : @aquapro
Shopee : Aquaprothailand
GoPro Group : GoPro Club กลุ่ม พูดคุย ซื้อขาย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับ GoPro