GoPro 11 Creator Edition จากกล้อง Action Camera ธรรมดา สู่กล้อง Creator ที่สามารถสร้างสรรค์ภาพยนตร์ได้อย่างเหนือชั้น มาพร้อมกับอุปกรณ์สำหรับการถ่ายทำ Content หรือจะเรียกว่าครบจบในชุดเดียวก็ว่าได้ สำหรับใครที่เป็นสายครีเอเตอร์ วันนี้ Aquapro จะพาไปทำความรู้จักกับ GoPro Hero11 Black Creator Edition ถ้าหากรู้ระบบการทำงานของแต่ละอุปกรณ์แล้วละก็ รับรองว่าถูกใจอย่างแน่นอน!
GoPro 11 Creator Edition มีอะไรบ้าง?
สำหรับสาย Vlog นอกจากกล้อง GoPro แล้ว ต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง? โดยภายในชุด Creator Edition นี้ประกอบไปด้วย GoPro11, Media Mod, Volta, Light Mod, Enduro Battery 1 ก้อน และอุปกรณ์สำหรับยึดจับต่างๆ มาให้ภายในกล่อง หากใครที่ไม่ต้องการซื้ออุปกรณ์เสริมอื่นๆ บอกเลยว่าซื้อเซตนี้ได้ ครบ จบ ทุกอย่าง!
มีระบบการทำงานอย่างไร
อย่างแรกที่ต้องมีนนั้น นั่นก็คือ Media Mod อุปกรณ์เสริมชิ้นแรกของชุด Creator Edition ตัวช่วยที่จะทำให้คุณภาพเสียงดียิ่งขึ้น โดยลักษณะของ Media Mod จะมีไมโครโฟน และ Housing มาให้ภายในตัว มีช่องสำหรับเชื่อมต่อ 3 พอร์ต คือ Micro HDMI out สำหรับต่อจอเพิ่ม, USB Type-C และ ช่องต่อไมค์ 3.5 มม. พร้อมยางกันละอองน้ำ ซึ่งอุปกรณ์เสริมชิ้นนี้สามารถใช้งานร่วมกับ Display Mod, Light Mod ได้
อุปกรณ์ชิ้นถัดมา คือ Volta ด้ามจับที่ทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่สำรอง หรือเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับการถ่าย Vlog สามารถสั่งงานผ่านบลูทูธหรือใช้สายในการเชื่อมต่อ บริเวณขาจับจะมีปุ่มควบคุมการใช้งาน และสามารถใช้เป็นรีโมทคอนโทรลได้ไกลถึง 98 ฟุต
ที่สำคัญภายในตัว Volta ยังมีแบตเตอรี่ 4900 mAh หรือเทียบเท่ากับแบตเตอรี่ถึง 3 ก้อน! โดยอุปกรณ์เสริมชิ้นนี้เหมาะสำหรับการใช้งานบนบกเพราะไม่สามารถกันน้ำได้ นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานกับ GoPro 10, GoPro 9 รวมไปถึง GoPro MAX ได้อีกด้วย
อุปกรณ์เสริมชิ้นสุดท้าย คือ Light Mod ไฟเสริม LED สำหรับติดหัวกล้อง มาพร้อมกับ Light Diffuser ไฟ LED สามารถปรับความสว่างได้ทั้งหมด 4 ระดับ โดย Light Mod ด้านหน้าจะประกอบไปด้วยไฟเสริม LED 10 ดวง ส่วนด้านบน คือ ปุ่ม Power และปุ่มเปลี่ยนโหมด ที่สำคัญยังมีแบตเตอรี่ภายในตัวช่วยให้ใช้งานได้นานถึง 6 ชั่วโมง
รูปแบบการใช้งานของ GoPro 11 แบบเซต
ดีไซน์ของกล้อง GoPro Hero11 Black Creator Edition เหมือนกับ Hero 9 และ Hero 10 มีสเปคการใช้งานเหมือนกับ Hero 11 ส่วนอุปกรณ์เสริมต่างๆ ในเซตนี้จะเหมาะกับการใช้งานรูปแบบไหนบ้างไปดูกัน
ควรใช้งานในรูปแบบไหน
กล้องโกโปรเซตครีเอเตอร์ถูกออกแบบมาให้เป็นมากกว่ากล้องแอคชั่น เพราะในรุ่นนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์มากมาย ที่ช่วยสร้างสรรค์การถ่ายวิดีโอได้ในระดับกล้องโปร นอกจากการใช้งานแบบลุยๆ แล้ว ยังเหมาะกับการใช้งานในรูปแบบถ่าย Vlog เพราะในเซตมีอุปกรณ์เสริมที่ตอบโจทย์สายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ได้อย่างครอบคลุม
คุณภาพที่ได้เป็นอย่างไร
หากพูดถึงเรื่องคุณภาพของกล้อง GoPro Hero 11 แม้ว่าจะมีดีไซน์เหมือนรุ่นก่อนๆ แต่ในรุ่นนี้มาพร้อมกับคุณสมบัติที่เหนือกว่า โดยคุณภาพที่ได้จากการถ่าย Vlogging ด้วยเซตครีเอเตอร์ มีดังนี้
- Media Mod อุปกรณ์ชิ้นนี้มาพร้อมกับไมค์ Shotgun ภายในตัว และมีช่อง 3.5 มม. ซึ่งสามารถเสียบไมค์ Shotgun และไมค์ Wireless เพิ่มได้ หากใช้ GoPro + Shotgun Media Mod สามารถรับเสียงระหว่างการถ่าย Vlog ได้ดี แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่เล็กน้อย คือ สามารถรับเสียงได้เพียงฝั่งเดียว
ถ้าต้องการถ่ายทำคอนเทนต์ด้วยคุณภาพเสียงที่ชัดเจน แนะนำว่าควรใช้ไมค์ Wireless เชื่อมต่อกับตัวกล้อง เพราะนอกจากจะมีประสิทธิภาพเสียงที่ดีแล้ว ยังมีอุปกรณ์ในการเชื่อมต่อที่ เล็ก กะทัดรัด อีกด้วย
- GoPro Volta หรือเรียกอีกอย่างว่า “ไม้เซลฟี่” เป็นอุปกรณ์เสริมที่สายคอนเทนต์ขาดไม่ได้ แต่ Volta มีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ทำให้แตกต่างจากไม้เซลฟี่ทั่วไป เพราะมี Battery Built-in ที่ความจุ 4900 mAh หรือเทียบเท่ากับแบตเตอรี่ 3 ก้อน ใช้เป็นรีโมทคอนโทรล และสามารถแยกขาออกเป็น Tripod ตั้งโต๊ะได้
Volta Grip มีช่อง Input สำหรับ USB Type-C ดังนั้นถ้าต้องการชาร์จแบตเตอรี่กล้อง และ Volta ก็สามารถชาร์จไปพร้อมๆ กันได้ภายในช่องเดียว มีคุณสมบัติแบบ 3 in 1 ขนาดนี้ ช่วยลดจำนวนการพกพาอุปกรณ์เสริมได้ดีทีเดียว
- Light Mod ไฟเสริม LED ขนาดเล็ก เหมาะกับการใช้งานในที่แสงน้อย ไม่ว่าจะถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอก็ไม่ต้องง้อแสง เพราะคุณสมบัติของ Light Mod จะช่วยให้การถ่ายของคุณง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถปรับความสว่างได้ทั้งหมด 4 ระดับ และมีแบตเตอรี่มาให้ภายในตัวสามารถใช้งานได้นานถึง 6 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังใช้งานร่วมกับกล้อง DSLR, กล้อง Mirrorless หรืออุปกรณ์เสริมชนิดอื่นๆ ได้
ข้อดีของการเป็นกล้องแอคชั่นแคม คือ มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย สามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงได้ แต่ด้วยขนาดกล้องที่เล็กจึงเป็นข้อจำกัดในเรื่องของดีไซน์ ยิ่งมีความละเอียดสูง ยิ่งส่งผลให้แบตเตอรี่หมดไว จึงจำเป็นต้องพกพาอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ด้วย เช่น แบตเตอรี่สำรองหลายๆ ก้อน หรือ ไมค์ Shotgun
หากต้องการถ่าย Vlog อาจไม่สะดวกต่อการพกพา ดังนั้นอุปกรณ์เสริมทั้ง 3 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็น Media Mod, GoPro Volta และ Light Mod นอกจากจะช่วยลดจำนวนการพกอุปกรณ์เสริมแล้ว ยังสามารถใช้สร้างสรรค์คอนเทนต์ได้อย่างลงตัว
ราคา ซื้อแยก ซื้อรวม ต่างกันไหม แบบไหนคุ้มกว่ากัน?
ในปีนี้ทาง GoPro ได้เปิดตัวกล้องแอคชั่นแคมมาถึง 3 ตัวด้วยกัน นั่นก็คือ GoPro Hero11 ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 18,500 บาท ส่วน GoPro HERO11 Black Creator Edition มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 26,000 บาท มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมเน้นการถ่าย Vlogging ส่วน GoPro HERO 11 Black Mini อยู่ที่ 15,000 บาท
หากต้องการถ่ายทำคอนเทนต์ แนะนำ Creator Edition Set เพราะภายในกล่องมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมสำหรับสายครีเอเตอร์โดยเฉพาะ ความคุ้มค่าของการซื้อแบบเซต คือ ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมชิ้นอื่นๆ เพิ่มเติม และอาจช่วยประหยัดงบได้มากกว่าการซื้ออุปกรณ์เสริมแบบแยก
กล้อง GoPro11 Creator Edition เหมาะสำหรับใคร
การใช้งานกล้อง GoPro11 Creator Edition เหมาะสำหรับสายคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ หรือมือใหม่ที่อยากลองเล่นโกโปรเป็นเครื่องแรก เพราะภายในกล่องมีอุปกรณ์มาให้อย่างครบถ้วน โดยไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์เสริมแยก แต่ข้อจำกัดของเซตครีเอเตอร์ คือ Media Mod และ Volta ไม่สามารถกันน้ำได้ ถ้าหากต้องการใช้สำหรับการทำกิจกรรม แนว Extreme Sport หรือลุยน้ำ แนะนำรุ่น GoPro HERO 11 Black Mini จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า
เลือก GoPro11 Creator Edition ที่ Aquapro พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้ม
สำหรับใครที่ต้องการอัพเกรดรุ่นโกโปร ในตอนนี้ต้องยกให้ “GoPro Hero11 Black Creator Edition” ยิ่งถ้าเป็นสายครีเอเตอร์หรือชื่นชอบการถ่าย Vlog ขอบอกเลยว่าเซตนี้ คือ ตัวเลือกที่ดีมาก เพราะนอกจากมีฟีเจอร์ใหม่ๆ แล้ว ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ อย่างครบครัน
ถ้าหากสนใจสามารถสอบถามได้ที่ Aquapro ร้านตัวแทนจำหน่ายกล้องโกโปรแท้ อุปกรณ์เสริมอื่นๆ อีกมากมาย มาพร้อมแพ็คเกจสุดคุ้มให้คุณได้เลือกตามไลฟ์สไตล์
ติดตาม และ สั่งซื้อสินค้า AquaPro เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชั่นใหม่ๆ ได้หลากหลายช่องทางที่
Facebook : AquaproThailand
Line : @aquapro
Shopee : Aquaprothailand
GoPro Group : GoPro Club กลุ่ม พูดคุย ซื้อขาย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับ GoPro
