หลังจากที่ GoPro 11 เปิดตัวได้ไม่นาน เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ก็ถึงเวลา เปิดตัว GoPro 11 mini กล้องรุ่นน้องที่สเปค และคุณสมบัติใกล้เคียงกับรุ่นพี่อย่าง GoPro Hero Black 11 สำหรับการเปิดตัวในครั้งนี้ กล้อง GoPro 11 mini สร้างมาเพื่อตอบโจทย์สาย Activity โดยเฉพาะ ดังนั้นการดีไซน์ และสเปคด้านการใช้งานเป็นอย่างไร มาดูรายละเอียดไปพร้อมๆ กันกับ Aquapro ได้เลย!!
ดีไซน์ภายนอก GoPro 11 mini เป็นอย่างไร?
ทาง Mentagram ได้ทำการ เปิดตัว GoPro 11 mini กล้องตัวใหม่ที่กำลังจะวางจำหน่ายวันที่ 23 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ พร้อมราคาเปิดตัวอยู่ที่ 15,000 บาท ซึ่งการเปิดตัวของแต่ละรุ่นทางโกโปรไม่เคยทำให้ผิดหวัง เพราะจะมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เซอร์ไพร์สอยู่ตลอด แต่ก่อนที่จะไปดูเรื่องของสเปคการใช้งาน ไปดูกันก่อนดีกว่าว่าGoPro11 mini จะมีดีไซน์แตกต่างจากเดิมอย่างไร แล้วตอบโจทย์ผู้ใช้งานในด้านใดบ้าง?
ด้านรูปทรงภายนอก
กล้องโกโปร 11 มินิ เป็นเวอร์ชันที่มีขนาดเล็กลง กะทัดรัดมากขึ้น และมีน้ำหนักเบากว่าโกโปร 11 อยู่ที่ 133 กรัม ไม่มีหน้าจอแสดงผลทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้านข้างกล้องยังคงมีช่องระบายน้ำ ส่วนด้านบนจะมีหน้าจอ LCD เล็กๆ แสดงโหมดที่ใช้งานในขณะนั้นเหมือนกับโกโปรรุ่นเก่า
โดยปกติแล้วด้านหลังตัวกล้องจะเป็นหน้าจอ LCD ทัชสกรีน แต่ในโกโปร 11 มินิ ด้านหลังคือ ช่อง Heatsink ขนาดใหญ่เพื่อระบายความร้อน ถ้าหากสังเกตจะเห็นว่ามี Mount สำหรับยึดกล้องติดกับฐานหรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ทั้งด้านหลัง และ บริเวณฐานกล้อง การออกแบบที่ติด Mount ในลักษณะนี้แน่นอนว่าสามารถยึดติดกับ Chesty mount ได้สบายๆ หรือสามารถนำไปเชื่อมต่อกับขาตั้งกล้อง เพื่อทำ Activity ต่างๆ ได้อย่างสะดวก
ปุ่มควบคุมการทำงาน
โกโปร 11 มินิจะมีปุ่มด้านบนสามารถใช้งานได้ 2 แบบ คือ แตะเพื่อเลือกโหมด หรือ กดค้างเพื่อทำการบันทึก ส่วนปุ่มด้านหน้าใช้สำหรับกดเพื่อยืนยันคำสั่ง ส่วนการใช้งานในโหมดอื่นๆ โกโปรรุ่นนี้จะควบคุมการทำงานผ่านทาง GoPro’s Quik app คุณสามารถเข้าไปตั้งค่าความละเอียด ค่าเฟรมเรท รวมถึงเลนส์ที่ต้องการล่วงหน้าได้ เพื่อความรวดเร็วต่อการใช้งานในครั้งถัดไป
เปิดตัว GoPro 11 mini พร้อมบอกสเปค
มาต่อกันที่เรื่องสเปคของเจ้า GoPro11 mini กันบ้าง เชื่อว่าหลายๆ คนต้องอยากรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ ขอบอกก่อนว่า โกโปรรุ่นนี้สร้างมาเพื่อตอบโจทย์สำหรับสาย Activity โดยเฉพาะ และในอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันที่กล้องวางจำหน่าย ทางเราได้เตรียมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสเปคของโกโปร 11 มินิ มาไว้ให้คุณแล้ว! เพื่อใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจก่อนเลือกซื้อ
- แบตเตอรี่ รุ่นนี้ใช้ Enduro Battery ชนิดเดียวกับโกโปร 11 แต่เป็นแบตเตอรี่ Build in ติดกับตัวกล้อง ไม่สามารถถอดออกได้ มีขนาดความจุอยู่ที่ 1520 mAh การใช้งานจะน้อยกว่า GoPro11 อยู่ที่ 10-15% แต่การที่มีหน้าจอ LCD ขนาดเล็กก็จะทำให้ไม่กินแบตเท่ากับการมีหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ โดยรวมแล้วหากใช้งานไม่หนัก แบตเตอรี่ก็สามารถอยู่ได้นานยิ่งขึ้น
- หน่วยประมวลผล GoPro11 mini ใช้หน่วยประมวลผลเดียวกับ GoPro11 คือ GP2 Processer และขนาดเซนเซอร์ 1/1.9 นิ้ว
- ความละเอียดวิดีโอ รองรับความละเอียดสูงสุดที่ 5K 60fps, 4K 120fps และ 2.7K 240fps ในรุ่นนี้ไม่มีโหมดถ่ายภาพ แต่สามารถครอบภาพจากวิดีโอได้ โดยมีความละเอียดที่ 24.7 MP และ รองรับการใช้งานขนาดภาพ 8:7 ทำให้ไฟล์ที่ได้สามารถนำไปปรับเป็นขนาด 9:16 ได้โดยไม่ลดคุณภาพของไฟล์
- ระดับสี ระดับความลึกของเฉดสีอยู่ที่ 10-bit color depth เทียบเท่ากับโกโปร 11 ให้สีสันที่สวยงามคมชัด และสมจริง แม้อยู่ในที่แสงน้อยก็หมดกังวล
- HyperSmooth 5.0 รุ่นนี้มีระบบกันสั่นเทียบเท่ากับโกโปร 11 และโหมด Horizon Lock 360 องศา แม้เกิดการสั่นไหวก็ไม่ทำให้ภาพเอียง
- มุมมองภาพ โหมดวิดีโอสามารถเลือกมุมมองภาพได้หลากหลาย มีเลนส์ให้เลือกเหมือนกับรุ่น 11 ได้แก่ Hyperview, Superview, Timelapse และ Timewarp
- Timelapse – Timewape 3.0 มีความละเอียดอยู่ที่ 5.3K 30fps และภายในโหมด Timelapse ยังมีพรีเซตให้การถ่าย Night Mode สนุกยิ่งขึ้น ได้แก่ Star Trails
, Light Painting และ Vehicle Light Trails - ความสามารถกันน้ำ GoPro11 Mini สามารถกันน้ำได้ที่ความลึก 10 เมตร หากไม่มีอุปกรณ์กันน้ำ หรือที่ครอบเลนส์สามารถกันได้ลึก 5 เมตร
- ปุ่มควบคุมการใช้งาน โกโปรรุ่นนี้สามารถควบคุมการใช้งานง่ายๆ ผ่านปุ่มชัตเตอร์ด้านบน และปุ่มยืนยันด้านหน้ากล้อง หากต้องการตั้งค่าโหมดต่างๆ สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านทาง GoPro’s Quik app
- Max Lens Mod เลนส์สุดพิเศษชนิดนี้ช่วยทำให้การถ่ายวิดีโอ ได้มุมมองภาพกว้างขึ้นถึง 155 องศา ติดมากับตัวกล้องเหมือนกับโกโปร 11
มีอะไรแตกต่างจาก GoPro 11 บ้าง?
หากพูดถึงด้านความแตกต่างของ GoPro11 mini และ GoPro11 มีความแตกต่างในด้านของดีไซน์ และมีคุณสมบัติการใช้งานบางอย่างที่ต่างกัน หากเป็นเรื่องของดีไซน์จะแตกต่างกันในเรื่องของ รูปทรง ขนาด หน้าจอทัชสกรีน และแบตเตอรี่ Build in ที่ติดมากับตัวเครื่อง รวมถึงปุ่มควบคุมการทำงาน การตั้งค่าต่างๆ ภายในกล้องที่ส่วนใหญ่จะทำผ่าน Quik app โดยตรง
ถัดมาเป็นเรื่องสเปคการใช้งาน ส่วนใหญ่การทำงานจะคล้ายกับ GoPro11 แต่ก็มีบางฟีเจอร์ที่แตกต่างกัน ดังนี้
- ตัดโหมดถ่ายภาพออก แล้วเปลี่ยนเป็นการครอบภาพจากวิดีโอแทน มีความละเอียดอยู่ที่ 24.7 MP
- ไม่มีโหมด Hindsight ตัวช่วยบันทึกวิดีโอ 15/30 วินาทีก่อนกดปุ่มชัตเตอร์
- ไม่มี Scheduled Capture การตั้งค่าเปิดเครื่องและเริ่มบันทึกวิดีโอเองตามระยะเวลา หรือ Duration ที่กำหนด
- ไม่มีโหมด Looping Video เป็นโหมดบันทึกโอแบบวนลูปตามเวลาที่กำหนด
- ไม่มีโหมด Web Cam ที่สามารถ Live Stream แล้วเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง
- ไม่มี GPS ติดมาเหมือนกับ GoPro Hero 11 หรือ GoPro รุ่นอื่นๆ
เมื่อเห็นข้อแตกต่างระหว่างกล้องโกโปรทั้ง 2 รุ่น แล้ว เป็นอย่างไรกันบ้าง? หากใครที่ไม่เน้นคุณสมบัติที่ไม่มีใน GoPro 11 mini ก็หมดห่วงได้เลย เพราะความสามารถด้านการใช้งานใกล้เคียงกับ GoPro11 มาก ถ้าใครที่เป็นสายออกทริป หรือสาย Activity แบบลุยๆ ขอบอกเลยว่ารุ่นนี้ตอบโจทย์อย่างแน่นอน!!
หลังการ เปิดตัว GoPro 11 mini รอชมรีวิว ได้ที่ Aquapro
สำหรับใครที่เคยใช้งานกล้องโกโปรมาก่อน กล้องรุ่นนี้เหมาะกับคุณอย่างแน่นอน เพราะมีระบบการทำงานใกล้เคียงกับรุ่นก่อน แถมรองรับการใช้งานที่สะดวกมากยิ่งขึ้น และถ้าหากใครที่กำลังรอ GoPro 11 mini สามารถติดตามข้อมูลอัปเดตได้ที่ Aquapro ร้านตัวแทนจำหน่ายกล้องโกโปรแท้ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมอุปกรณ์เสริมมากมาย ที่เกี่ยวกับกล้อง Action Cam ในบทความหน้าเราจะมาทำการรีวิว GoPro 11 mini คุณสมบัติการใช้งานจะตอบโจทย์สาย Activity มากแค่ไหน สาวกโกโปรต้องห้ามพลาด!!
ติดตาม และ สั่งซื้อสินค้า AquaPro เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชั่นใหม่ๆ ได้หลากหลายช่องทางที่
Facebook : AquaproThailand
Line : @aquapro
Shopee : Aquaprothailand
GoPro Group : GoPro Club กลุ่ม พูดคุย ซื้อขาย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับ GoPro
